วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560

สระบุรี ทุกภาคส่วนร่วมงานรัฐพิธี วันที่ระลึก มหาจักรีบรมราชวงศ์




              วันนี้( 6 เมษายน 2560) เวลา 08.49 น. ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ และนำกล่าวคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี โดยมีดร.ชรัส  บุญณสะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พลตรีรังสรรค์  ยิ้มสู้ รองผอ.กอรมน.สบ. พลตรีวันชาติ  ผลไพบูลย์ ผบ.ศม.พลตรี อัศวิน  บุญธรรมเจริญ ผบ.มทบ.18  พลตำรวจตรี ชัยรัตน์  ทิพยจันทร์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี  นายสุจิน บุญมาเลิศ  รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ศาล อัยการ  ทหาร ตำรวจ คณะแม่บ้านทหารบก คณะแม่บ้านตำรวจ องค์กร ภาคเอกชน กลุ่มพลังมวลชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ประชาชนชาวจังหวัดสระบุรี ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ ต่อพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์
             











               เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 เป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้เสด็จสู่พระนคร ดำรงราชอาณาจักรสยาม เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีสืบทอดต่อจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และทรงสร้างกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของไทย ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของราชวงศ์จักรี ประเทศไทยต้องตกอยู่ในภาวะของสงคราม อยู่ในสภาพล่อแหลมต่อการต้องตกเป็นเมืองขึ้นของศัตรู แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยต้นราชวงศ์จักรีได้นำประเทศไทยรอดพ้นจากภัยสงคราม และการตกเป็นอาณานิคมของต่างชาติได้ ยิ่งกว่านั้นกลับสามารถสร้างบ้านเมืองให้เกิดความเป็นปึกแผ่น มีการฟื้นฟูวัฒนธรรมและประเพณีที่ต้องสูญเสียไปในครั้งกรุงศรีอยุธยาให้กลับฟื้นคืนมาเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ทรงเริ่มคบค้าสมาคมกับชาวต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวขึ้น










             วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2462  เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานโอกาสให้ชนชาวไทยได้แสดงกตเวทีคุณต่อพระมหากษัตริยาธิราช ในพระบรมราชจักรีวงศ์   และเป็นการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในพระราชวงศ์จักรี ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ในการรักษาบ้านเมือง และทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองในด้านต่างๆ สืบต่อมา และยิ่งในรัชสมัยในรัชกาลของพระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี  และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ยิ่งตระหนักชัดในดวงจิตของพสกนิกรชาวไทยทุกผู้ ทุกนาม พระองค์ทรงดำเนินพระราชกรณียกิจ ครองแผ่นดินด้วยความเป็นธรรม ทรงนำความเรียบร้อย ร่มเย็น มาสู่อาณาประชาราษฎร์โดยทั่วถึงซึ่งพสกนิกรชาวไทยทุกคนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้


 




(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)   บรรณาธิการข่าว     รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น: