วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กาญจนบุรี ร่วมกำจัดผักตบชวา คืนชีวิตชีวาให้แม่น้ำแม่กลอง





  ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีร่วมกับประชาชนชาวตำบลปากแพรกร่วมกำจัดผักตบชวา คืนชีวิตชีวาให้แม่น้ำแม่กลอง ในโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกและส่งเสริมการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา เพื่อนำไปใช้ในการเกษตร



          วันนี้ (27 ต.ค.57) เวลา 08.30 น. ที่ลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำแม่กลอง หมู่ที่ 12 บ้านลุ่มดงกระเบา ต.ปากแพรก อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมกำจัดผักตบชวา คืนชีวิตชีวาให้แม่น้ำแม่กลอง ภายใต้โครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก



           โดยมี นายจิรศักดิ์ พรหมชนะ ปลัดเทศบาลตำบลปากแพรก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการฯ พร้อมด้วย พนักงานและเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลปากแพรก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี,สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี เครือข่ายเฝ้าระวังคุณภาพน้ำลุ่มน้ำแม่กลองพื้นที่เทศบาลตำบลปากแพรก ผู้นำชุมชน กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกลุ่มอาสาพัฒนาสตรีตำบลปากแพรก และประชาชนชาวตำบลปากแพรกเข้าร่วมกิจกรรม



           เทศบาลตำบลปากแพรกจัดกิจกรรมกำจัดผักตบชวา คืนชีวิตชีวาให้แม่น้ำแม่กลอง ภายใต้โครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนเห็นความสำคัญในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและเพื่อรณรงค์เพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่เทศบาลตำบลปากแพรก




            โดยผักตบชวาที่ร่วมกันเก็บจะนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักเพื่อนำไปใช้ในการเกษตรต่อไป ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ตามโครงการ "คลองสวยน้ำใน คนไทยมีความสุข” เพื่อที่จะปรับปรุงสภาพแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำสาธารณะให้การใช้งานทุกฤดูกาล การจราจรทางน้ำได้ทุกเส้นทางไม่มีอุปสรรคหรือมีสิ่งกีดขวางทางน้ำจากผักตบชวา รวมทั้งวัชพืชต่างๆ




             ทั้งนี้นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวกับส่วนราชการและประชาชนว่า จังหวัดกาญจนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสนับสนุนงบประมาณในการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการดำเนินการ เพื่อนำปุ๋ยดังกล่าวไปใช้ในการปลูกพืช การทำการเกษตรต่อไป

     

ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี  /  เรวัติ  น้อยวิิจิตร  กาญจนบุรีนิวส์

ไม่มีความคิดเห็น: