วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สระบุรี นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ทำ MOU กับสถาบันวิจัยพัฒนากระทรวงวิทยาศาสตร์



               วันที่26มิถุนายน2561 นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีร่วม ดร.อาภารัตน์ มหาขันธ์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน มี นายมงคล สุขมาลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการทำงาน “โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน” เพื่อขับเคลื่อนนโยบายโครงการจังหวัดสะอาดในการแก้ไขปัญหาขยะชุมชนด้วยผลงานวิจัยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มุ่งสู่การบูรณาการทุกภาคส่วนภายในประเทศอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ วว.โดยศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม นำโดย ดร.เรวดี นักวิจัยอาวุโสและทีมงาน ยังได้จัดทำโครงการฝึกอบรมระดับเยาวชน ชุมชนวิสาหกิจชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดการขยะจากด้านต้นทางและการนำกลับมาใช้ใหม่ ลดปัญหามลพิษจากขยะ ทำให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดี สร้างความตระหนักในการใช้ทรัพยากร การเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ทรัพยากร รวมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมจากผลงานวิจัยที่แล้วเสร็จ วทน.ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะชุมชน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายทั้งระดับเยาวชน และพื้นที่ใกล้เคียงในเขตตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย ณ หอประชุม 60 ปี โรงเรียนแก่งคอย จังหวัดสระบุรี





              นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ในนามของจังหวัดสระบุรี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ วว.เข้ามาขับเคลื่อนโดยการใช้องค์กรความรู้ วทน. แก้ไขปัญหาขยะชุมชนทั้งในรูปแบบการให้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในการคัดแยกขยะต้นทางรวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องจักร ซึ่งจังหวัดสระบุรีจัดเป็นพื้นที่หนึ่งในในอีกหลายๆพื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาขยะชุมชนทั้งขยะเก่าตกค้างสะสมขยะใหม่ ซึ่งมีปัญหาสำคัญคือการจัดการขยะชุมชนแบบไม่ถูกวี โดยการกองทิ้งกลางแจ้ง ทั้งนี้ จังหวัดสระบุรี มีหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 109 แห่ง ซึ่งมีความแตกต่างกันของประเภทขยะ ทั้งขยะเมือง ขยะภาคการเกษตร และขยะชุมชนอุตสาหกรรม จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ ต้องมีความรู้ในรูปแนวทางการจัดการขยะที่มีลักษณะแตกต่างกันอีกทั้งจังหวัดสระบุรีเป็นจังหวัดที่มีการขยายตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง และการขยายตัวยังส่งผลกระทบต่อปริมาณขยะให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเชื่อมั่นว่าพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการทำงานครั้งนี้ จะสามารถขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกับ วว.เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาขยะของจังหวัดสระบุรีในเขตตำบลตาลเดี่ยว ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบการจัดการขยะขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งแนวทางการขับเคลื่อนของ วว.ยังมีการให้องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ และงานวิชาการในรูปแบบต่างๆ เข้ามาเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนาฝึกอบรมเพื่อการขับเคลื่อนให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมต่อการจัดการขยะชุมชนที่ดีอย่างถูกวิธี และนำองค์กรความรู้จากงานวิจัยที่มีอยู่มาบูรณาการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะชุมชน สร้างรายได้เพิ่มและยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยนวัตกรรม ขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0




                ดร.อาภารัตน์ มหาขันธ์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน วว.กล่าวว่า ความร่วมมือของ วว.จังหวัดสระบุรี และองค์กรปกครองส่วนตำบลตาลเดี่ยว เป็นการนำผลงานวิจัยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในชุมชน อยู่ภายใต้การดำเนินงาน “โครงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน” เพื่อผลักดันงานด้าน วทน.ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะชุมชนที่ต้นทาง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อสร้างเป็นต้นแบบการคัดแยกขยะชุมชน ทั้งในรูปแบบการฝึกอบรมสร้างองค์ความรู้ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมภายในประเทศ อาทิ เทคโนโลยีการคัดแยกขยะชุมชนและกำจัดกลิ่นโดยระบบกึ่งอัตโนมัติ เทคโนโลยีการคัดแยกชนิดและสีของขยะพลาสติกโดยระบบ NIR พร้อมระบบผลิตเกล็ดพลาสติก และเทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อการแก้ไขปัญหาขยะชุมชนทั้งขยะเก่าและขยะใหม่
 “ปัญหาขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทย นับเป็นปัญหาสำคัญและทวีความรุนแรง




              จากปัญหาดังกล่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.จึงได้อนุมัติแผนที่นำทางการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย รวมถึงระเบียบปฏิบัติในการจัดการขยะในประเทศไทย โดยเริ่มด้วยการจัดการขยะชุมชนที่ตกค้างสะสมหรือขยะเก่า นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษยังได้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้องและตกค้างสะสมในพื้นที่ จากข้อมูลของปัญหาดังกล่าว วว. จึงร่วมมือกับ จังหวัดสระบุรี และ อบต.ตาลเดี่ยว เพื่อผลักดันงานวิจัย วทน. ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ วว. ผ่านการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อบูรณาการอย่างยั่งยืน  ซึ่งเป็นโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขแลลดปัญหาขยะชุมชนรวมถึงขยะพลาสติกที่เหลือทิ้งโดยนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่และเพิ่มมูลค่า โดยขยายผลในการดำเนินงานทุกด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีและการฝึกอบรม เพื่อสร้างโอกาสให้กับพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในการสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงาน สร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน” ดร.อาภารัตน์ มหาขันธ์ กล่าว




                   นายมงคล สุขศิลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว จัดเป็น อบต.ขนาดกลาง ที่มีจำนวน 11 หมู่บ้าน โดยมีการผสมผสานระหว่างชุมชนเมืองเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ทำให้ขยะมีองค์ประกอบที่แตกต่างจากเขตอื่นๆ อีกทั้งตาลเดี่ยวจัดเป็นเขตเมืองที่เมืองที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นและมีปริมาณขยะที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีแหล่งการจัดการขยะที่ถูกวี เพื่อสอดรับกับการขยายตัวของเมือง และประชาชน ดังนั้นการที่ วว.เข้ามาช่วยขับเคลื่อนภายในโครงการ “โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน” ซึ่งมีเป้าหมายด้านการคัดแยกขยะที่ต้นทาง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมให้เกิดความตระหนักโดยการอบรมให้ความรู้ภายในชุมชนหรือหมู่บ้าน การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการขยะเก่า ขยะใหม่ และบำบัดมลพิษ จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีทั้งสามหน่วยงานที่ได้ร่วมกันดำเนินโครงการในครั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะชุมชน โดยใช้องค์ความรู้ วทน.ภายในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆของพื้นที่ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นท้องที่




(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)  บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น: