วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2561

พญ.สมพิศ จำปาเงิน เผยเคล็ดลับการรักษาโรคในยุค ไทยแลนด์ 4.0 ที่ โรงพยาบาลอู่ทอง



             Thai PBS ตามไปดู แหล่งผลิตยาสมุนไพรไทย ที่มากที่สุดในประเทศไทย ที่ โรงพยาบาลอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี สามารถสร้างรายได้กว่าปีละ 20 ล้านบาท ด้วยยาสมุนไพร เพื่อการรักษาโรคกว่า 100 ชนิด







              14 มิถุนายน 2561 เวลา 11.30 น.สำนักข่าว Thai PBS  โดย ณัฐวุฒิ วงษ์สุวรรณ  ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อ ตามรอยแหล่งผลิตยาสมุนไพรไทย ที่มากที่สุดในประเทศไทย และ การรักษาโรค ตามแบบฉบับแพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่ โรงพยาบาลอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  โดยมี แพทย์หญิงสมพิศ จำปาเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอู่ทอง พร้อมทีมงาน รอให้การต้อนรับ






               โรงพยาบาลอทอง  เป็น โรงพยาบาลชุมชน ระดับแม่ข่าย (M2) สังกัด สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี สํานักงานปลัดกระทรวง  กระทรวงสาธารณสุข  ขนาด  150 เตียง  ที่ตั้ง 220 หมู่ 15 ถนนมาลัยแมน ต.จระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี 72160 โทรศัพท์ 035- 551422  โทรสาร 035- 565470   E-mail drsompit@hotmail.com  มี นางสมพิศ จําปาเงิน  เป็น ผู้อํานวยการโรงพยาบาล  โดยมี
อัตรากำลัง  แพทย์ 15 คน  ทันตแพทย   6 คน เภสัชกร 15 คน พยาบาลวิิชาชีพ 114 คน พยาบาลเทคนิค 2 คน พนักงานราชการ 1 คน ลูกจ้างประจํา 18 คน เจ้าหน้าที่อื่น ๆ 303 คน





            งานแพทย์แผนไทย  เป็นโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยนําร่องของประเทศที่มี การจัดบริการครอบคลุมทั้ง 4 มิติและนํามาผสมผสานร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน ทํางานร่วมกันเป็นทีมสหวิชาชีพ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรก (ปี 2537 )ที่ทําการศึกษาและนําสมุนไพรหญ้าดอกขาวมาใช้ในการช่วย เลิกบุหรี่ส่งผลให้หลายหน่วยงาน เช่น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สถาบันธัญญารักษ์รวมถึงประเทศ ญี่ปุ่นนําไปศึกษาต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้สะดวกขึ้น มีการศึกษาและติดตามเรื่องประสิทธิผลของ ยา ความปลอดภัย อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาสมุนไพรแบบ Multicenter ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก   สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และโรงพยาบาลอื่นๆเพื่อรวบรวมเป็น ฐานข้อมูลทางวิชาการเพื่อผลักดันยาสมุนไพรเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มขึ้นจาก 19 รายการ (ปี2549) เป็น 74 รายการ





           (ปี2557) มีการทําวิจัยร่วมกับประเทศญี่ปุ่นในการศึกษารูปแบบการส่งเสริมการใช้สมุนไพร เพื่อการพึ่งตนเองของประชาชน (Herbal Med Kit) และร่วมทําการศึกษาวิจัยทางคลินิกกับกรมพัฒนา การแพทย์แผนไทยฯอีกหลายเรื่อง เช่น การติดตามผลการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับด้วยตํารับยาเบญจอํามฤตย์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่สถานที่ผลิตยาผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practices)จาก อย.ในปี 2553 และทําการผลิตยาสมุนไพรสนับสนุนให้กับหน่วยบริการ ต่างๆทุกระดับที่มีการจัดให้บริการแพทย์แผนไทยเกือบ 200 แห่งทั่วประเทศ มีศูนย์วัตถุดิบสมุนไพรที่มีการ ส่งเสริมการปลูกแบบ GAP (Good Agricultural Practices) ส่งผลให้ยาสมุนไพรที่ผลิตได้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เป็นแหล่งฝึกงานวิชาชีพด้านแพทย์แผนไทยนําร่องที่มีนักศึกษาจากมหาลัยต่างๆมาฝึกต่อเนื่องทุกปีเช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงนอกจากนี้ยังเป็นแหล่งศึกษาดูงานชั้นนําสําหรับ ประชาชนและหน่วยงานต่างๆทั้งในและต่างประเทศ






             พญ.สมพิศ จำปาเงิน  เปิดเผยว่า .. เราทำเรื่องสมุนไพร เพื่อรักษาโรคมากว่า 30 ปี แล้ว มีตัวยาสมุนไพรกว่า 100 ชนิดที่ผลิตขึ้น และจำหน่ายไปยัง โรงพยาบาลทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้กับทางโรงพยาบาลกว่า ปีละ 20 ล้านบาท ในส่วนของคนไข้เรามีการบูรณาการ การตรวจรักษาร่วมกันระหว่าง แพทย์เฉพาะทาง ยุคปัจจุบัน กับ แพทย์แผนไทยประยุกต์ พร้อมพยาบาล เภสัชกร ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ต่อคนไข้ เนื่องจาก โรคบางชนิดสามารถรักษาให้หายได้ กับการใช้ยาแผนไทย ยาสมุนไพร ซึ่งเราก็มีผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านนี้





             ด้านหมอเปิ้ล  คุณอรสา โอภาสวัฒนา แพทย์แผนไทยประยุกต์ ประจำโรงพยาบาลอู่ทอง กล่าวว่า .. การรักษาพยาบาล โดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ กับ ตัวยาสมุนไพร ที่ผ่านการผลิตอย่างมีคุณภาพของทางโรงพยาบาลเรา ถือเป็นการรักษาพยาบาล ที่ได้มาตรฐานตามหลักการแพทย์แผนไทย ของกระทรวงสาธารณสุข และก็เป็นที่พึงพอใจของคนไข้ พร้อมทดสอบด้วยการจับชีพจร ให้กับท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล และวิเคราะห์อาการของร่างกายให้ฟัง  ซึ่งผู้ถูกทดสอบก็พยักหน้ารับด้วยความพึงพอใจ  ผมเห็นแล้วจึงยื่นแขนเข้าไปบ้าง หมอเปิ้ลยิ้มให้ พร้อมทดสอบสมรรถนะร่างกายด้วยการจับชีพจรให้ พร้อมสอบถามวันเกิด และ อายุ ผมสงสัย เลยสอบถามไปว่า ทำไมต้องถามวันเกิด ก็ได้รับคำตอบว่า วันเกิดของมนุษย์ จะเป็นตัวกำหนดธาตุต่างๆในร่างกาย ซึ่งจะบ่งบอกได้ว่าเป็นอย่างไร แล้วก็บอกว่า ของผมเป็นธาตุน้ำ ในร่างกายมีน้ำมาก มีความร้อนเยอะ แต่ไม่มีโรคอะไร





            เภสัชกรฉวีวรรณ ม่วงน้อย เภสัชกรใหญ่ประจำโรงพยาบาลอู่ทอง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า .. การคัดเลือกวัตถุดิบ จำพวกสมุนไพร เพื่อมาทำยา จะต้องผ่านกรรมวิธี ในการคัดเลือก ว่าสมุนไพรแต่ละตัวที่จะนำมา มีตัวยาอยู่มากน้อยแต่ไหน บางช่วง บางฤดู ความเข้มข้นของตัวยาก็มีมาก บางช่วงก็มีน้อย การทดสอบสิ่งเจือปนประเภทสารเคมี ก็สำคัญ จะมีติดมาไม่ได้ ถ้ามีก็เท่ากับไม่ใช่สมุนไพรปลอดสารพิษ อันนี้สำคัญ ซึ่งทางโรงพยาบาลของเราได้รับการการันตีมาตรฐานในเรื่องนี้ จากองค์กรตรวจสอบทั้งในและต่างประเทศ






             เภสัชกรอ้อ ดลิชา ชั่งสิริพร เภสัชกร หัวหน้าตึก แพทย์แผนไทย กล่าวเสริมว่า ... การไปหาหมอแผนปัจจุบัน หมอจะใช้เวลาตรวจไม่นานนัก แล้วก็จะสั่งยาให้ แต่สำหรับ การมาหาหมอแพทย์แผนไทย หมอจะใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์ และตรวจอย่างละเอียดและใช้เวลาพอสมควร แต่การันตีได้ว่า ตัวยาสมุนไพรของโรงพยาบาลอู่ทองของเรา มีคุณภาพเชื่อถือได้ ดูจากยอดสั่งซื้อ ในแต่ละปี มีจำนวยมากถึงกว่าปีละ 20 ล้านบาท โรงพยาบาลยศเส   ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ ของทางเรา





              จากการที่ Thai PBS ตามมาดู แหล่งผลิตยาสมุนไพรไทย ที่มากที่สุดในประเทศไทย ที่ โรงพยาบาลอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี สามารถสร้างรายได้กว่าปีละ 20 ล้านบาท ด้วยยาสมุนไพร เพื่อการรักษาโรคกว่า 100 ชนิด ในวันนี้ จึงทำให้เกิดความหวังใหม่ขึ้นมาว่า หากประเทศไทยเรา คนไทยเรา เปลี่ยนมาดูแลสุขภาพ ด้วยสมุนไพรไทย ทั้งจากที่สกัดแล้วและมีที่โรงพยาบาล หรือ สมุนไพรไทย ที่อยู่ข้างรั้วบ้าน ก็จะถือได้ว่า คนไทยโชคดี และวันนี้ โรงพยาบาลอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  สามารถเป็นตัวแทนของคนไทยในการผลิตยาจากสมุนไพรไทย ให้ใช้กันได้มากว่า 30 ปี ซึ่งหลายคนก็เพิ่งจะรู้ในวันนี้ จึงขอขอบคุณ Thai PBS ที่พาเรามาแกะรอยในเรื่องนี้ และ ขอบคุณ ท่านผู้อำนวยการ โรงพยาบาลอู่ทอง พร้อมทีมงานทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ เป็นอย่างสูง







ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น: