วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559

สุพรรณบุรี พ.ต.ท.สุรพล ผะอบทิพย์ รายงานเหตุ มีคนเสียชีวิตในบ่อน้ำบ้านตาแก้ว



              เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 2 ก.ย. พ.ต.ท.สุรพล  ผะอบทิพย์  สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งคลี อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีคนเสียชีวิตในบ่อน้ำบ้านตาแก้ว หมู่ 4 ต.โคกช้าง จึงประสานแพทย์เวร รพ.เดิมบางนางบวช เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ ปภ.พร้อมชุดประดาน้ำนำอุปกรณ์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูบ่อน้ำกลางทุ่งนาลึกประมาณ 6 เมตรที่ก้นบ่อมีร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าทับกันอยู่ โดยมีน้ำผุดและมีควันลอยขึ้นมาตลอดเวลา เจ้าต้องสวมอุปกรณ์ หน้ากากและชุดป้องกันแก๊สพิษก่อนลงไปนำร่างของทั้งสองขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถนำขึ้นได้โดยเจ้าหน้าที่ที่ลงไปช่วยนั้นปลอดภัย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายเสกสันต์ เปี่ยมมนัส อายุ  46 ปีและนางสมคิด เปี่ยมมนัส อายุ 45 ปีทั้ง 2 อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ต.ดอนกำ อ.สรรคบุรี  จ.ชัยนาท จากการตรวจสอบทั้ง 2 ศพไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดเสียชีวิตมาแล้ว 6 ชม.




               จากการสอบถามนายนิคม  มั่นปาน อายุ 36 ปีเพื่อนบ้านที่ทำนาติดกันเล่าว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังเดินดูนาข้าวซึ่งอยู่ใกล้กันนางสมคิด  ได้วิ่งมาตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือบอกว่าสามีเป็นลมอยู่ในบ่อจากนั้นได้วิ่งกลับไปที่บ่อตนจึงเดินตามแต่ไม่ทัน นางสมคิด ใจร้อนได้รีบปีนบันไดเหล็กลงไปช่วยสามีที่หมดสติอยู่ก้นบ่อ เมื่อตนมาถึงเห็นนางสมคิด แน่นิ่งไปแล้วจึงพยายามลงไปช่วยแต่พอไต่บันไดลงได้ประมาณ 3 เมตรตนได้กลิ่นเหม็นแรงโชยเข้าจมูกลักษณะคล้ายแก๊สมีเทน ทำให้หายใจไม่สะดวก จึงรีบขึ้นจากบ่อ แล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยแต่ไม่ทันเนื่องจากสองสามีภรรยาเสียชีวิตแล้ว





                 ทางด้าน นายดาวเรือง เปี่ยมมนัส อายุ 70 ปีบิดานายเสกสันต์ เล่าว่านายเสกสันต์ และนางสมคิด เป็นสามีภรรยากันได้มาทำนาบริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 40 ไร่ก่อนเกิดเหตุทั้งสองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านมาหว่านปุ๋ยในนาข้าวซึ่งอยู่ห่างบ้านของตนประมาณ 200 เมตรหลังจากมาถึงบุตรชายได้ข้าวสารและกับข้าวมาให้ตนกับภรรยาซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์มาหลายปี จากนั้นทั้งสองก็ขอตัวไปหว่านปุ๋ยตามปกติ ต่อมามีชาวบ้านมาตะโกนเรียกบอกว่าลูกชายกับลูกสะใภ้เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำ ตนได้ยินหัวใจแทบสลายเนื่องจากบุตรชายคนนี้เป็นคนดีขยันทำมาหากินดูแลพ่อแม่มาตลอด ไม่เคยเกเรทำให้รู้สึกเสียใจมาก




                  ทางด้าน พ.ต.ท.สุรพล ผะอบทิพย์  สว.(สอบสวน) กล่าวว่าจากการตรวจสอบและจากการสอบสวนญาติผู้เสียชีวิตทราบว่าทั้งสองได้มาหว่านปุ๋ยนาข้าวบริเวณดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากบ้านบิดาของนายเสกสันต์ ประมาณ 200 เมตร คาดว่าขณะที่นายเสกสันต์ เดินมาถึงบริเวณบ่อน้ำที่ใช้สูบน้ำเข้านาได้สังเกตเห็นน้ำผุดขึ้นที่ก้นบ่ออย่างผิดปกติด้วยความสงสัยจึงปีนบันไดลงไปดู แต่เมื่อลงไปถึงก้นบ่อสิ่งที่เห็นกลายเป็นแก๊สพิษทำให้หายใจไม่ออกจึงพยายามตะโกนเรียกนางสมคิด ภรรยาให้ช่วยแต่นางสมคิด ไม่สามารถลงไปช่วยได้จึงวิ่งไปตามเพื่อบ้านที่ทำนาอยู่ใกล้กันมาช่วยแต่เพื่อบ้านมาช้าจึงลงไปช่วยด้วยตัวเองแต่สุดท้ายเสียชีวิตตามสามี  ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสะเทือนใจให้กับญาติพี่น้องและชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่มาดูกันจนแน่น เนื่องจากสองสามีภรรยาเป็นคนดีขยันทำมาหากินจนมีฐานะ และยังส่งเสียเลี้ยงดูบิดามารดากระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว






   ภัทรพล  พรมพัก/ศูนย์ข่าวสุพรรณบุรี
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น: