วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

กัญจนา ศิลปอาชา รับสืบทอดปณิธานพ่อ สานต่องานทุกอย่าง ไม่ทิ้งเมืองสุพรรณ


          นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา เปิดใจครั้งแรก    หลังสูญเสีย “ พ่อบรรหาร”  รับจะสานงานทุกอย่างต่อ ยันพี่น้องศิลปอาชาไม่ทิ้งคนสุพรรณบุรี ถึงเวลาจะบอกอนาคต ชทพ. ย้ำ พรรคยังอยู่


                เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหารว่า ครอบครัวศิลปอาชา นำโดย คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา บุตรสาว พร้อมด้วยครอบครัว ญาติ คนสนิท และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา อาทิ นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และ นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ได้ร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระถวายภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่นายบรรหารที่ถึงแก่อนิจกรรมครบ 3 วัน


           จากนั้น เวลา 11.00 น. น.ส.กัญจนา ให้สัมภาษณ์ถึงการจากไปของนายบรรหารว่า ครอบครัวไม่ได้คิดฝันมาก่อน เป็นการจากไปโดยกะทันหัน เพราะในวัยย่าง 84 ปี นายบรรหารยังมีสุขภาพที่แข็งแรง เมื่อเทียบกับหลายๆ คนในวัยเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นคนดูแลสุขภาพตัวเองอย่างดี ตรวจสุขภาพเป็นประจำ แม้จะมีโรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัวแต่นายบรรหารไม่เคยประมาท พบแพทย์อยู่ตลอด ออกกำลังกายทุกวัน หลังจากเข้าโรงพยาบาลและจากไปภายในเวลา 2 วันทำให้เราตั้งตัวไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายที่ดูแลคุณพ่อ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาเรื่องการพานายบรรหารไปโรงพยาบาลนั้นตนถือว่าไม่เป็นประเด็น แล้วต้องขอขอบคุณที่แพทย์ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่คงถึงเวลาของนายบรรหารแล้วที่จะต้องจากไป


            น.ส.กัญจนา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานโกศและรับศพนายบรรหารไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงพระราชทานพวงมาลาวางหน้าโกศศพ นอกจากนี้ ขอขอบคุณพี่น้องชาวสุพรรณบุรีทุกคนและประชาชนทุกคนที่ร่วมไว้อาลัย และส่งความปรารถนาดีและกำลังใจมาให้กับครอบครัวศิลปอาชา สิ่งที่ตนและครอบครัวจะทำให้นายบรรหารต่อไปภายหลังจากเสร็จสิ้นจากพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมและตามกำหนดแล้ว จะดำเนินการบรรจุศพไว้ 100 วัน ซึ่งระหว่างที่สวดพระอภิธรรมจะทำบุญเลี้ยงพระเพลทุกวัน และเมื่อครบ 1 เดือนในวันที่ 23 พฤษภาคมจะทำบุญใหญ่ที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้ชาวสุพรรณบุรีเข้ามามีส่วนร่วมไว้อาลัยและทำบุญอุทิศส่วนกุศลร่วมกัน จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวสุพรรณบุรีไว้ล่วงหน้า


          “ส่วนงานต่างๆ ที่นายบรรหารได้ทำไว้ โดยเฉพาะใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นงานที่คุณพ่อรักตลอดมา ดิฉันจะสานต่อ สิ่งใดที่คุณพ่อสร้างไว้จะดูแลให้ดี สิ่งใดที่ยังทำไม่เสร็จ ดิฉันจะดำเนินการทำให้เสร็จ ส่วนชาวสุพรรณบุรี ดิฉันกับนายวราวุธ ศิลปอาชา น้องชายก็จะไม่ทิ้ง คนของคุณพ่อไม่ว่าจะอยู่ที่ใดดิฉันจะดูแลต่อ โดยจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดในฐานะลูก” น.ส.กัญจนา กล่าว


          เมื่อถามถึงอนาคตของพรรคชาติไทยพัฒนา น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ถึงเวลาที่จะให้คำตอบ เพราะขณะนี้พรรคการเมืองยังไม่สามารถจัดกิจกรรมใดๆ ได้ และรัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่เมื่อถึงเวลานั้นตนจะบอกเอง แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจใดๆ ของตนในอนาคตจะเป็นไปในฐานะลูกที่ดีที่จะทำเพื่อคุณพ่ออย่างเต็มที่ และสิ่งที่ดีของบ้านเมืองนี้ด้วย เพราะนี่คือเจตนารมณ์ของนายบรรหาร


             เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายบรรหารบอกหรือสั่งเสียอะไรไว้หรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ไม่มีการสั่งเสียใดๆ เพราะเป็นการจากไปอย่างกะทันหัน โดยคุณพ่อเองก็คงไม่ได้คิด แต่ตอนนี้พรรคยังอยู่ โดยหลังจากนี้ตนจะทำให้ดีที่สุด เพราะทราบว่านายบรรหารต้องการอะไร ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้น คุณพ่อได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมาว่ารับได้ เพราะอยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว ส่วนจะมีปัญหาอะไรก็ค่อยแก้กันไป ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อพูดชัดเจนก่อนจากไป

          

         นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ชื่อเล่น นา, หนูนา อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรี หลายสมัย เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 เป็นบุตรีของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สถิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา


อีกด้านหนึ่ง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ใช้เวลาในระหว่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง (พ.ศ. 2553) เข้ารับการศึกษาหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ของสถาบันวิทยาการตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในรุ่นที่ 11 และเป็นรุ่นเดียวกันกับนักการเมืองชื่อดังอีกหลายคน อาทินายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายประจวบ ไชยสาส์น นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ฯลฯ


น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา เข้าสู่งานการเมืองตามบิดาซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทย โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2538, 2539, 2544 ,2548 และได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


ในปี พ.ศ. 2544 ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ประธานมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันราชภัฎสวนดุสิต ในปี พ.ศ. 2545 เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และปี พ.ศ. 2546 เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม


ต่อมาเมื่อพรรคชาติไทย ถูกตัดสินยุบพรรค ในปี พ.ศ. 2551 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ในฐานะคณะกรรมการบริหารพรรคจึงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี[1]


ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 น.ส.กัญจนาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ลำดับที่ 2[2]


น.ส.กัญจนา เล่นการเมืองครั้งแรกเมื่อทางพรรคชาติไทยหาผู้สมัครลงที่จังหวัดสุพรรณบุรีไม่ได้ จึงได้ลงรับสมัครเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538 และได้รับเลือกตั้ง ปัจจุบันได้ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้าง และถึงแม้ไม่มีครอบครัวของตัวเอง แต่ก็รับอุปการะเด็กผู้หญิงพิการคนหนึ่งมาตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบ ในปี พ.ศ. 2541 [3]
  
     

 เรวัติ น้อยวิจิตร   hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com  08-1910-7445

ไม่มีความคิดเห็น: