วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สุพรรณบุรี หนุ่มใหญ่ เซลล์ขายยาสมุนไพร หัวใจวายดับอนาถข้างเตียงนอน



              ที่ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 4 พ.ย.ร.ต.อ.ประเทือง น้ำดอกไม้ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 49 หมู่ 1 ซอย 12 บ้านพลูหลวง ต.พิหารแดง จึงพร้อมด้วยกำลังฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และเจ้าหน้าที่สมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวพบศพนายธนิตศักดิ์ ธนสิทธิ์มณีกุล อายุ 52 ปีเจ้าของบ้านสภาพเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ข้างเตียงนอน ภายในห้องนอนสภาพนอนหงายศพขึ้นอืด จากการตรวจชันสูตรพลิกศพไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายและร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใดสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 ชม. ภายในบ้านพบเสื้อผ้าของใช้ของผู้ตาย ยาสมุนไพรบรรจุขวดจำนวนหนึ่งวางอยู่พร้อมเอกสารต่างๆและนามบัตรของผู้ตายวางกระจัดกระจายอยู่บริเวณห้องโถง
            







              นายจักรินทร์ พ่วงพันธ์ อายุ 30 ปีบุตรชายผู้ตายกล่าวว่าตนเป็นลูกชายคนที่สองเป็นลูกแม่รอง อยู่บ้านใกล้กันแต่ไม่ค่อยได้สุงสิงกันเนื่องต่างคนต่างทำงานและกลับบ้านไม่ค่อยเป็นเวลา ส่วนมากเวลามีปัญหาอะไร พ่อมักจะโทรศัพท์คุยกับลูกสาวต่างมารดา ซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพ กระทั่งวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่พบหน้าพ่อก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตโดยก่อนหน้านี้พ่อเคยบ่นให้ฟังว่าไม่ค่อยสบายเจ็บชายโครงและแน่นหน้าอก ลุงบุญส่ง พี่ชายพ่อจึงอาสาพาไปหาหมอที่  รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช เนื่องจกตนไม่มีเวลาต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวส่วนพ่ออยู่บ้านคนเดียว ลุงกับป้า ซึ่งอยู่บ้านติดกันก็จะช่วยดูแลหาข้าวปลาอาหารให้กิน กระทั่งมาเสียดังกล่าว









             ทางด้านนายบุญส่ง พ่วงพันธ์ อายุ 63 ปีพี่ชายผู้ตายเล่าว่าน้องชายเป็นเซลล์ขายยาสมุนไพรรักษาโรค ขายส่งแค็บหมู และแหนม ขยันทำมาหากิน เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง สอบต.พิหารแดง แต่สอบตก เป็นคนพูดเก่ง อารมณ์ดี นิสัยร่าเริงจึงทำให้มีภรรยาเยอะถึง 12 คนโดยผู้ตายมักจะเดินทางไปกลับบ้านเกือบทุกวันและเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมาน้องชายบอกว่าเจ็บที่ชายโครงขวา และแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก ตนจึงไปหาหมอเอ็กซเรย์ และตรวจร่างกายหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมากจึงจัดยาให้พร้อมกับอนุญาตให้กลับบ้านจากนั้นน้องชายก็ไปทำงานตามปกติ และครั้งสุดท้ายที่เจอกันเมื่อวันที่ 1 พ.ย.น้องชายกลับมาบ้านก็เงียบไม่มีใครเห็นอีกกระทั่งวันนี้ภรรยาของผู้ตายซึ่งอยู่ที่ประเทศลาว ได้โทรศัพท์ข้ามประเทศมาสอบถามอาการของสามีกับพี่สาวซึ่งอยู่บ้านติดกันด้วยความเป็นห่วงพี่สาว จึงเดินไปเปิดประตูเพื่อจะเข้าไปดูแต่ประตูล๊อกจึง มาตามให้ตนไปช่วยกันงัดประตูเข้าไปดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ 






              ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากผู้ตายมีอาการแน่นหน้าอกและอยู่บ้านตามลำพังทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จึงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว หลังจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรอย่างละเอียดแล้วญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ญาตินำไปประพิธีทางศาสนาต่อไป






เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น: