วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561

วช. ชี้แจงแนวทางการบริหารงบประมาณบูรณาการวิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ 2563





สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสำนักงานนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จัดการประชุม “แนวทางการบริหารงบประมาณบูรณาการวิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ 2563” เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเตรียมการจัดทำแผนบูรณาการวิจัยและนวัตกรรม และเตรียมความพร้อมสำหรับการบริหารจัดการงบประมาณการวิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ 2563 ในวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ณ ห้องประชุมแซฟไฟร์ 204 - 206 ชั้น 2 อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม ศูนย์การประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี นนทบุรี โดยได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษเรื่อง “วิจัยและนวัตกรรม...กลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศ” เวลา 11.00 น. และศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวต้อนรับ พร้อมเสวนาเรื่อง “วิจัยและนวัตกรรมเชิงรุก บูรณาการวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ” เวลา 09.15 น.








ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยมีการปรับทิศทางการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้อยู่บนฐานการร่วมมือการวิจัยและนวัตกรรมที่มีความสอดคล้อง เหมาะสม สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีทิศทางการปรับตัวของประเทศ ทั้งในระยะสั้น ระยะยาวตลอดจนการพัฒนาเชิงพื้นที่ในแต่ละภูมิภาคจน ถึงภาพรวมของประเทศ เพื่อเป็นฐานการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเศรษฐกิจ พัฒนาและแก้ปัญหาของประเทศ สร้างความเป็นอยู่ที่ดี สร้างความเท่าเทียมกันในสังคม การบูรณาการวิจัยต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การพัฒนาโจทย์วิจัยที่เป็นประเด็นสำคัญร่วมกับหน่วยงานผู้ใช้ประโยชน์ ซึ่งเรียกว่า “ร่วมคิด” เมื่อถึงการวิจัยก็บูรณาการทำงานตามความเชี่ยวชาญ ซึ่งเรียกว่า “ร่วมทำ” รวมถึงการลงทุนการวิจัย ที่เรียกว่า “ร่วมสร้าง” จะเห็นได้ว่าการบูรณาการจำเป็นต้องทำงานกันอย่างเป็นระบบเพราะทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีพลังในการขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับตัวและสร้างจุดแข็ง เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตโดยการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ หากประเทศไทยยังไม่สามารถส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัย และนวัตกรรมให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น เศรษฐกิจไทยจะไม่สามารถพัฒนาเทียบเท่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคได้








สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวนช.) โดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จึงได้จัดทำ “ร่างยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – พ.ศ. 2579)” ขึ้น เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาของประเทศ โดยมีความสอดคล้องกับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และได้กำหนดยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ออกเป็น 4 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ที่ 3 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการสร้างองค์ความรู้พื้นฐานของประเทศ และยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ และเพื่อให้การดำเนินงานจัดทำแผนงบประมาณบูรณาการการวิจัยการวิจัยและนวัตกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ วช. และสวทน. ในฐานะเจ้าภาพร่วมการจัดทำงบประมาณ ในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ จึงได้จัดการประชุม เรื่อง “แนวทางการบริหารงบประมาณบูรณาการวิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ 2563” ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจในการเตรียมการจัดทำแผนบูรณาการวิจัยและนวัตกรรม และเตรียมความพร้อมสำหรับการบริหารจัดการงบประมาณการวิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ 2563









ทั้งนี้ วช. ได้กำหนดจัดการประชุมดังกล่าวขึ้นอีกใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ภาคเหนือ ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และภาคใต้ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา





 
 



นางสาวอนงค์วดี จีระบุตร ประชาสัมพันธ์ วช.
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น: