วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โรคอ้วนคืออะไร? เช็คให้ชัวร์ว่าเราเข้าข่ายหรือไม่





          โรคอ้วน ใน ที่นี้ หมายถึง ความอ้วนที่มากเกินไป มีน้ำหนักตัวมากกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ใช่อ้วนกำลังดี อ้วนพองามหรือกำลังสวย คำว่า อ้วน ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง มีเนื้อและไขมันมาก โต อวบ ซึ่งเป็นความหมายที่ไม่น่าปรารถนาของคนทั่วๆ ไป

1. เกิดจากสาเหตุภายนอก

           เป็นสาเหตุใหญ่ที่เกิดโรคอ้วน เพราะตามใจปากมากเกินไป กินมากเกินความต้องการของร่างกาย อาหารที่กิน เนื้อ ไขมัน หรือแป้ง ของหวาน สิ่งเหล่านี้จะถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกาย ถ้ามีมากเกินไปก็จะกลายเป็นไขมันพอกพูนตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ออกกำลังกายน้อย กินแล้วนอน
·       นิสัยในการรับประทาน คนที่มีนิสัยการรับประทานที่ไม่ดี เรียกว่า กินจุบกินจิบไม่เป็นเวลา
·       ขาด การออกกำลังกาย ถ้ารับประทานอาหารมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ แต่ได้ออกกำลังกายบ้างก็อาจทำให้อ้วนช้าลง แต่หลายคนไม่ได้ยืดเส้นยืดสาย ไม่ช้าจะเกิดการสะสมเป็นไขมันในร่างกาย

2. มาจากสาเหตุภายใน

           พบได้จากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อไทรอยด์ ทำให้มีไขมันตามบริเวณต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง
·       จิตใจและอารมณ์ มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่การกินอาหารขึ้นอยู่กับจิตใจและอารมณ์ เช่น กินดับความโกรธ ดับความคับแค้นใจ กลุ้มใจ กังวลใจ หรือดีใจ บุคคลเหล่านี้ จะรู้สึกว่าอาหารที่ทำให้จิตใจสงบ จึงหันมายึดเอาอาหารไว้เป็นที่พึ่งทางใจ ตรงกันขามกับบางคนกลุ้มใจเสียใจก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
·       ความไม่สมดุลระหว่างความรู้สึกอิ่มกับความหิว เมื่อใดที่ความอยากเพิ่มขึ้น เมื่อนั้นการกินก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถึงขั้นเรียกว่า กินจุ ในที่สุดก็อ้วนเอาๆ
3. เพราะกรรมพันธุ์
ซึ่งพบได้น้อย กรรมพันธุ์นี้พิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าพ่อและแม่อ้วนทั้งสองคน ลูกจะมีโอกาสอ้วนได้ถึงร้อยละ 80 ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งอ้วน ลูกมีโอกาสอ้วนได้ถึงร้อยละ 40
4. โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง
5. จากการกินยาบางชนิด
ก็ส่งผลกระทบให้อ้วน ผู้ป่วยบางโรคได้รับฮอร์โมนสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ก็ทำให้อ้วนได้ และในผู้หญิงที่ฉีดยาหรือกินยาคุมกำเนิดก็ทำให้อ้วนง่ายเช่นกัน
6. เพศ
เพศหญิงนั้นมักอ้วนกว่าเพศชาย ก็ธรรมชาติเธอมักสรรหาจะกิน กิน และกิน ตลอดเวลา อีกทั้งตอนตั้งครรภ์ ก็ต้องกินมากขึ้น เพื่อบำรุงร่างกายและลูกน้อยในครรภ์ แต่หลังจากคลอดลูกแล้ว บางรายก็ลดน้ำหนักลงมาได้ แต่บางรายก็ลดไม่ได้ ผู้หญิงทำงานน้อย ออกกำลังน้อยกว่าชาย ผู้หญิงอ้วนมากกว่าผู้ชาย 4 : 1
7.อายุ
เมื่อมากขึ้น โอกาสโรคอ้วนถามหาก็ง่ายขึ้น เนื่องจากพออายุมาก มีความเชื่องช้า ใช้พลังงานน้อยลง กินมากกว่าใช้ หญิงและชายที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป มักจะอ้วนง่าย เพราะคนวัยนี้ ยังอยู่ในวัยทำงานมาก กินมากขึ้นเพื่อชดเชยกำลังงานที่ถูกใช้ไป คนมีสุขภาพจิตดีมักมีรูปร่างสมส่วนแข็งแรง บางคนสุขภาพจิตไม่ดี อารมณ์เครียดเป็นประจำ ทำให้เกิดความท้อถอย เบื่อหน่าย ขี้เกียจออกกำลัง โรคอ้วนก็จะถามหาได้นะคะ
นอกจากนี้เรายังสามารถจำแนกความอ้วนออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ดังนี้
·       อ้วนแบบลูกแอปเปิ้ล (apple-shape obesity) หรือ อ้วนลงพุง (central obesity) คือคนอ้วนที่มีรอบเอวใหญ่กว่ารอบสะโพก เกิดจากมีไขมันสะสมมากในช่องท้องและอวัยวะภายใน ไขมันที่อยู่ในอวัยวะภายในนี้จะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคความดันโลหิตสูง
·       อ้วนแบบลูกแพร์ (pear-shape obesity) หรืออ้วนชนิดสะโพกใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่พบในเพศหญิง โดยจะมีไขมันสะสมอยู่มากบริเวณสะโพกและน่อง อ้วนลักษณะนี้ยากต่อการลดน้ำหนัก แต่โอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ จะน้อยกว่าชนิดแรก
·       อ้วนทั้งตัว (generalized obesity) ได้แก่ คนอ้วนที่มีไขมันทั้งตัวมากกว่าปกติกระจายตัวอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยรอบ มีทั้งลงพุงและสะโพกใหญ่ รวมถึงมีโรคแทรกซ้อนทุกอย่างดังกล่าว และโรคที่เกิดจากน้ำหนักตัวมากโดยตรง เช่น โรคทางไขข้อ ปวดข้อ ข้อเสื่อม ปวดหลัง เหนื่อยง่าย หายใจลำบากเพราะไขมันสะสม ทำให้ระบบหายใจทำงานติดขัด

"วิธีลดความอ้วนที่อันตราย ควรหลีกเลี่ยง"




          ปัจุจบันไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงต่างให้ความสำคัญเรื่องน้ำหนักมากขึ้น ต่างคนต่างหาวิธีต่างๆ เพื่อลดน้ำหนัก เพื่อให้ตัวเองดูดี หุ่นดี ไม่ว่าวิธีไหนที่ใครว่าดี พวกเค้าเหล่านั้น ก็ยินดีที่จะจ่ายเงิน ซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ แต่คุณรู้ไหมรือไม่ว่า สรรพคุณของสินค้าและบริการที่เจ้าของสินค้าและบริการอวดอ้างสรรพคุณนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์ หรือก่อให้เกิดโทษกันแน่ ต่อไปนี้ คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นวิธีการลดอ้วนที่อันตรายและควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง



         1.ยาลดความอ้วน สิ่งนี้แท้จริงแล้วไม่ได้มีผลในการลดไขมันในร่างกาย จึงไม่ทำให้เราผอมลง ยาเหล่านี้จะมีฤทธิ์ในการทำให้เราไม่อยากทานอาหารและขับปัสสาวะ ดังนั้นสิ่งที่ออกไปจากร่างกายเรา จนดูเหมือนว่าเราน้ำหนักลดก็คือ "ของเหลวหรือน้ำ" ในร่างกาย แต่ไขมันยังอยู่ ผลกระทบที่อันตรายก็คือ ในขั้นเบาจะทำให้เกิดการวิงเวียน เจ็บหน้าอก เส้นเลือดแตกและขั้นรุนแรงอาจถึงเสียชีวิต หากใครที่มีปัญหาโรคหัวใจหรือความดันสูงอยู่แล้ว ยานี้ถือว่าอันตรายมาก และถ้าใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคจิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มของความผิดปกติทางจิตอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังอาจพบการดื้อยาและการติดยาเกิดขึ้นได้
 


          2.อดอาหาร วิธีนี้จะทำให้เราสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และในระยะยาวทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง และทำให้เกิดความเครียดต่ออวัยวะสำคัญในร่างกาย และถ้าเข้มงวดในการควบคุมแคลอรีในร่างกายมากเกินไป ก็จะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้หิวและอยากอาหารมากขึ้น ซึ่งอาจจะ เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

           3.แผ่นแปะลดความอ้วน ยังไม่มีหน่วยงานใดรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์นี้ ขณะเดียวกันองค์การอาหารและยาของสหรัฐ ได้สั่งยึดผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากผู้จำหน่ายแล้ว

           4.ยาขับปัสสาวะ เมื่อกินเข้าไป มีเพียงน้ำในร่างกายเท่านั้นที่ลดลง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำได้ ถ้าใช้ในขนาดสูงนาน ๆ ทำให้เสียเกลือโพแทสเซียม ซึ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรง หรือ เป็นตะคริวได้

           5.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระตุ้นกล้ามเนื้อ ที่โฆษณาขายกันเกร่อในขณะนี้ ไม่มีผลต่อการลดน้ำหนักหรือกระชับสัดส่วนของร่างกายเลย หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจเกิดอันตรายคือช็อตและไหม้เราได้

บริษัท Successmore ขอนำเสนอวิธีการลดความอ้วนด้วยผลิตภัณฑ์ F4 (เอฟโฟร์)




          นวัตกรรมทางเลือกใหม่ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดูแลและควบคุมน้ำหนัก กระชับสัดส่วน
ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มี 3 ปฎิบัติการ Block-Burn-Build ผสานกันอย่างลงตัว เพื่อกระชับสัดส่วนให้หุ่นของคุณดูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
Block(บล็อก) – ยับยั้งการดูดซึมหรือสะสมไขมันใหม่
Burn(เบิร์น) – เร่งการเผาผลาญโดยดึงไขมันที่แทรกอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อมาเผาผลาญให้เกิดพลังงาน
Build(บิวด์) – เมื่อไขมันที่แทรกตัวอยู่ในกล้ามเนื้อลดลง จึงทำให้สามารถสร้างกล้ามเนื้อขึ้นทางแทนไขมันได้

คุณสมบัติของสารประกอบสำคัญ

1.      แอล-คาร์นิทีน แอล ทาร์เทรต (L-Carnitine L-Tartrate) เป็นกรดอะมิโนที่ทำหน้าที่ช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงไขมันให้เป็นพลังงานทำให้ไขมันถูกนำไปใช้ทั้งหมดไม่เหลือเก็บสะสมไว้ จึงเป็นการช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อให้กับร่างกายอีกด้วย

2.      ไคโตซาน (Chitosan) เป็นไคโตซานจากพืช นวัตกรรมใหม่ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศเบลเยี่ยม (ผู้ที่แพ้อาหารทะเลสามารถรับประทานได้) ซึ่งช่วยดักจับไขมันได้ดีกว่าไคโตซานจากสัตว์ทะเล 134% ป้องกันการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักจากขันได้ 40% ลดการสะสมของไขมันในตับและกล้ามเนื้อได้ 66% ลดไตรกลีเซอไรด์และคลอเรสเตอรอลได้ 31.3% และ 21.5%

3.      สารสกัดจากถั่วขาว (White Kidney Ben Extract) มีสาระสำคัญคือ สารฟาโอลามิน (Phaseolamin) ซึ่งคุณสมบัติ เป็นตัวบล็อกแป้ง (Starch Blocker) โดยจะเข้าไปจับกับพันธะระหว่างโมเลกุลของแป้ง ทำให้เอนไซม์อะไมเลส (Amylase) ไม่สามารถย่อยแป้งให้กลายเป็นน้ำตาลได้ ส่งผลให้อาหารจำพวกแป้งที่รับประทานเข้าไปนั้น ไม่ถูกย่อย ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และจะถูกขับออกจากร่างกายไปในรูปของใยอาหาร โดยสามารถยับยั้งการทานของเอนไซม์ อะไรเลสได้ถึง 66%

4.      แอล-ฟีนินลอะลานีน (L-Phenylalanine) เป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการผลิตโปรตีนและการสังเคราะห์สารเคมีในระบบประสาท ซึ่งไปกระตุ้นฮอโมน Cholecys tokinin (CCK) ทำให้การเคลื่อนที่ของอาหารในลำไส้เล็กช้าลง และส่งสัญญาณกลับไปยังสมองให้รับรู้ว่า “อิ่ม” จึงทำให้ทานอาหารน้อยลง

5.      สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract) มีคุณสาบัติช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญไขมันของร่างกาย จึงช่วยสลายไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายแม้ไม่ได้ออกกำลังกายทำให้หุ่นกระชับอย่างมีประสิทธิภาพ

6.      สารสกัดจากเม็ดกาแฟ (Green Coffee Ben Extrct) สารสกัดจากเมล็ดกาแฟสดซึ่งมีสาระสำคัญ คือ Chlorogenic acid (CGA) ที่ช่วยยับยั้งการเปลี่ยนกลูโคสที่เหลือใช้ ไม่ให้เป็นไขมันสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

7.      สารสกัดจากพริกไทยดำ (Black Pepper Extract) มีสาระสำคัญคือ Piperine มีคุณสมบัติทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น จึงช่วยเพิ่มการใช้พลังงานของร่างกาย โดยเร่งอัตราการเผาผลาญพลังงาน ทั้งพลังที่ได้รับจากอาหาร และพลังงานที่สะสมอยู่ในรูปของไขมัน เมื่อมีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น จึงทำให้สัดส่วนของร่างกายลดลงมาจนมีหุ่นที่ดูดีขึ้นได้

8.      สารสกัดจากผลส้มแขก (Garcinia Extract) มีสาระสำคัญที่เรียกว่า Hydroxy Citric Acid (HCA) ซึ่งมีคุณสมบัติที่สำคัญในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ที่จะเปลี่ยนกลูโคสให้เป็นไขมันสะสม จึงช่วยยับยั้งกระวนการสร้างไขมัน (Lipogenesis) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ควบคุณน้ำหนักและหุ่นกระชับมากขึ้น

9.      โครเมี่ยม พิโคลิเนต (Chromium Picolinate) เป็นสารที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และไปเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย ทั้งยังช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) เพื่อหุ่นกระชับและสุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
คุณประโยชน์ของ F4  คือ สัดส่วน ที่กระชับและหุ่นสวยอย่างรวดเร็ว เห็นได้อย่างชัดเจน จนใครๆ ก็ทักคุณ พร้อมทั้งมีสุขภาพดี

-FIT : สัดส่วนลดลงอย่างเหมาะสม
-FIRM : กล้ามเนื้อและร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
-FRESH : ไม่มีสารกล่อมประสาท จึงทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย
-FAST : กระชับสัดส่วนเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 1 เดือน

ขนาดบรรจุ  30 แคปซูล  (แถมสายวัด + ตารางบันทึกข้อมูลสัดส่วนหลังทาน)
อย. 21-1-06654-1-0046
วิธีใช้  รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล
ก่อนอาหารเช้า และก่อนอาหารเย็น 15  นาที และดื่มน้ำตามมากๆ)
รีวิวผู้ใช้งาน

https://youtu.be/Ac_UCVN1liw

สนใจสินค้า ติดต่อสั่งซื้อ..ได้ตามที่อยู่ด้านล่าง
http://success-ateam.com/?id=196009&page=products44.html


                                             หนึ่ง ณัฐพล   nuengnattapon@gmail.com   0819848615
เรวัติ น้อยวิจิตร นสพ.พลังชน   rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

ไม่มีความคิดเห็น: